ปวดหลัง...แก้ไขกิจกรรมที่ทำประ...
ReadyPlanet.com


ปวดหลัง...แก้ไขกิจกรรมที่ทำประจำช่วยได้
avatar
ร้าน 42



 
ผู้ป่วยโรคปวดหลังทั้งหลายถ้า สามารถรู้ขอบเขตจำกัดในการเคลื่อนไหวของตน และรักษาท่าทางให้อยู่ในสมดุลของขอบเขตนั้นไว้ก็จะปลอดภัย สามารถทำกิจกรรมได้อย่างเป็นปกติ เคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องเป็นธรรมชาติ เราจึงควรมีความรู้เพื่อจัดท่าทางให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจวัตรประจำวันที่เราต้องทำอยู่เสมอ ตอนนึ้จึงขอเสนอเรื่องท่าทางการเคลื่อนไหวที่ใช้กิจกรรมต่างๆ ดังนี้
การลุกจากเตียง

เริ่มต้นด้วยการตะแคงตัวไปด้านข้างที่อยู่ชิดริมเตียงหาท่าทาง ที่สมดุลของคุณ และแขม่วกล้ามเนื้อหน้าท้องให้เกร็งไว้ ค่อยๆ หย่อนขาของคุณลงจากขอบเตียงและใช้มือทั้งสองดันตัวขึ้นในท่านั่ง เลื่อนตัวมาข้างหน้าเพื่อให้คุณนั่งอยู่ขอบเตียง นั่งตัวตรง หลังของคุณอยู่ในท่าที่สมดุล กล้ามเนื้อหน้าท้องตึงตัวดีและสะโพกและขาพร้อมที่จะทำงาน ก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าและดันตัวโดยใช้มือทั้งสองข้างจะลุกยืนได้อย่าง ง่ายๆ



การยืนที่อ่างล้างหน้า

ในขณะที่โกนหนวดหรือแปรงฟัน วางแขนข้างหนึ่งไว้ที่อ่างน้ำเพื่อพยุงน้ำหนักตัว หรือมิฉะนั้นก็วางเท้าข้างหนึ่งไว้บนม้าเตี้ยๆ เพื่อช่วยผ่านแรงกดดันที่หลังของคุณ เมื่อคุณต้องเอนตัวไปข้างหน้าต้องระวังหลังของคุณให้อยู่ในท่าที่สมดุลเสมอ ใช้การงอตัวที่ระดับสะโพกและเข่าเพื่อลดตัวของคุณลงให้อยู่ในระดับอ่างน้ำ อย่าก้มหลังหรือโน้มตัวไปข้างหน้าไกลๆ



การอาบน้ำ

ขณะยืนอาบน้ำฝักบัว ต้องรักษาท่าทางให้ถูกต้องและใช้ฟองน้ำถูตัวที่มีด้านยาวในการอาบน้ำส่วนที่ ต่ำกว่าหัวเข่า ขณะอยู่ในอ่างน้ำหลีกเลี่ยงการนั่งเหยียดขาตรง แต่ควรงอเข่าข้างหนึ่งเพื่อพยุงหลังก่อนจะนั่งลงในอ่างน้ำหรือออกจากอ่างน้ำ ควรอยู่ในท่าคุกเข่าและระวังหลังของคุณให้อยู่ในท่าที่สมดุลเสมอ



การโกนขนที่ขา

ไขว้ขาข้างหนึ่งไว้บนอีกข้างหนึ่งในขณะนั่งอยู่ที่ขอบอ่างน้ำ ถ้าเป็นฝักบัว ควรนั่งพิงหลังกับข้างฝาและงอเข่าขึ้นมาที่หน้าอก ถ้ามีเก้าอี้พลาสติกจะช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น



การใส่ถุงเท้าและรองเท้า

นั่งลงและยกเท้าขึ้นมาหาคุณจะได้ทำหลังให้อยู่ในท่าทีสมดุล หรือคุณอาจวางเท้าไว้บนม้านั่งหรือเก้าอี้ก็ได้ ถ้าคุณแน่ใจว่าหลังอยู่ในท่าที่สมดุลเมื่อคุณงอที่ระดับสะโพกและเข่า อย่างอตัวที่ระดับเอว



การใส่กางเกงใน

การใส่กางเกงในขณะที่คุณอยู่ในท่าปลอดภัยที่สุดหรือใส่ในขณะที่คุณยืนพิงผนังห้องเพื่อช่วยพยุงตัวไว้



การขับรถ

ควรนั่งตัวตรง เข่าของคุณไม่ควรสูงกว่าสะโพกมากนัก ใช้หมอนเล็กๆ หรือผ้าขนหนูม้วนหนุนไว้ด้านหลังส่วนล่างจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้น ดูแลให้ศีรษะพิงไปข้างหลัง และไหล่พิงไปข้างหลังและผ่อนคลาย ปรับที่นั่งเพื่อที่คุณจะไม่เอนตัวไปด้านหน้า ถ้าคุณไม่สามารถอยู่ในท่าที่ดีได้ คุณอาจต้องการซื้อที่พยุงหลังใส่บนที่นั่งช่วยอีกแรงหนึ่ง ถ้าคุณอยู่ในรถนานกว่า 15 นาที ควรยืดกล้ามเนื้อในที่นั่งของคุณสัก 2-3 ครั้ง ด้วยการแอ่นหลังของคุณและขมิบก้นแล้วจึงทำให้หลังแบนราบลง ถ้าเป็นไปได้ ควรยกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ



การนั่งลงและลุกขึ้น

เมื่อคุณเคลื่อนไหวจากท่ายืนเป็นท่านั่ง เลื่อนเท้าของคุณให้เท้าข้างหนึ่งเหลื่อมมาข้างหน้า ย่อเข่าลงให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุลและค่อยลดตัวลง ใช้มือจับด้านหน้าของเก้าอี้ นั่งลงบนขอบหน้าของเก้าอี้แล้วจึงเลื่อนตัวไปข้างใน เมื่อจะลุกขึ้นให้ถัดตัวมาข้างหน้าริมขอบที่นั่ง เลื่อนเท้าให้เหลื่อมกันและใช้กล้ามเนื้อขาและสะโพกในการยืนขึ้น ดูแลให้หลังของคุณอยู่ในท่าที่สมดุลตลอดเวลา



การนั่งที่โต๊ะทำงาน

ให้หลังของคุณในท่าสมดุลที่สบาย อย่าเลื่อนตัวไถลไปข้างหน้าหรือให้ศีรษะและไหล่ยื่นไปข้างหน้า หรือก้มต่ำลงในขณะทำงาน ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังตอนล่าง หรือใช้หมอนรองเอวถ้าจำเป็น



* หากคุณมีเก้าอี้ชนิดปรับความสูงได้ ควรปรับเก้าอี้ให้เข่าของคุณอยู่ในระดับเดียวกันหรืออยู่ต่ำกว่าสะโพกเล็ก น้อย และเท้าวางราบอยู่บนพื้นหรือวางอยู่บนที่วางเท้า ถ้าขาของคุณสั้นหรือเก้าอี้ของคุณปรับไม่ได้ คุณอาจต้องใช้กล่องเล็กๆ วางไว้ใต้เท้า ถ้าต้นขาของคุณไม่ยาวพอที่จะนั่งไปถึงด้านหลังของเก้าอี้ จงใช้หมอนหรืออะไรอื่นรองด้านหลังของคุณไว้ สำหรับผู้ที่สูงมากๆ ควรจะดูว่าเก้าอี้นั้นมีที่นั่งลึกพอที่จะรองรับต้นขาได้หรือไม่



* ถ้าหากคุณทำงานกับคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดและจอภาพควรจะอยู่ตรงหน้าคุณ ส่วนบนของจอภาพควรอยู่ประมาณระดับสายตา ข้อมือควรจะอยู่ในท่าที่สมดุล (ไม่งอขึ้นหรือลง) และแขนท่อนล่างควรขนานกับพื้น



* ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ลำตัวของคุณควรอยู่ในท่าเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้ว อย่างไรก็ตามคุณยังจำเป็นที่จะต้องมองลงล่างเพื่อดูจอ จงทำเช่นนี้ด้วยการลดสายตาลงไม่ใช่ก้มคอลง



สำหรับวิธีการป้องกันการปวดหลัง

สามารถป้องกันได้โดยวิธีง่ายๆ เช่น นั่ง นอน ยืน เดินให้ถูกท่า หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้แข็งแรง อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ช่วยลดแรงที่จะกระทำต่อข้อกระดูกสันหลังเพื่อชะลอความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามอายุ



ส่วนการรักษาอาการปวดหลัง

การรักษาขึ้นกับสาเหตุ ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากท่วงท่าที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องพยายามปรับปรุงแก้ไข เช่น ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง เวลานั่งต้องนั่งให้หลังชิดพนัก มีที่เท้าแขนขา สามารถวางราบบนพื้นได้ เป็นต้น ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากข้อกระดูกสันหลังเสื่อมโดยยังไม่มีอาการขาอ่อนแรง ชัดเจน การรักษาส่วนใหญ่ใช้วิธีการทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เช่น การดึงหลัง การอบความร้อน การกระตุ้นไฟฟ้าลวดปวด เป็นต้น



สรุปคือ แก้ด้วยวิธีพุทธศาสตร์ ควบคู่ วิทยาศาสตร์ จะได้ แข็งแรง หายป่วย รวยเรื้อรัง




ผู้ตั้งกระทู้ ร้าน 42 (panyasaejuang-at-gmail-dot-com) โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-04-25 12:44:12 IP : 125.24.126.185


Copyright © 2010 All Rights Reserved.