เทรนด์โทนสีฮอต ปี 2009




Color Wrap,Fashion

หาก บทความ  คือตัวหนังสือที่บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ก็คงไม่ผิด ถ้าจะบอกว่า งานออกแบบ ก่อสร้าง ก็คือหนึ่งในภาพประกอบสามมิติแห่งประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า เพราะเมื่อเรามองย้อนกลับมา ก็จะได้เห็นวิถีชีวิต แนวคิด ที่สะท้อนถึงสภาวะจิตใจ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนในสมัยนั้นๆ อย่างชัดเจน  และนี่คือทัศนคติการมองโลกในปี 2009 ซึ่งสื่อสารผ่านสีสัน ผลงานออกแบบ

ถ้า แฟชั่นไม่ใช่วงการ แต่ถูกเปรียบเปรยเป็นคน ก็คงจะต้องบอกว่า ผู้หญิงคนนี้มองโลกสวยเสมอแม้ในวันวิกฤติ เพราะ มักจะรังสรรค์ผลงานออกมาได้ตื่นตาตื่นใจเสมอด้วยจินตนาการไร้ขีดจำกัด แต่ถ้าคุณกำลังคิดว่า เธอก็แค่สวยแต่ไม่ฉลาด นั่นอาจเป็นคำพูดที่ไม่ยุติธรรม และอคติไปหน่อย เพราะที่จริงเธอได้ส่งผ่านสารแห่งการกระตุ้นจิตสำนึกของสภาวการณ์รอบตัวไป กับชิ้นงานเสมอ มองให้ดีๆ คิดให้กว้างๆ คุณจะรู้ว่ามีความห่วงใยซุกซ่อนอยู่ในเส้นใยผ้า

สิ่งที่เห็นได้ ชัดเจน คือการใช้จิตสำนึก ของวิกฤติโลกร้อนมาเป็นไอเดียสำคัญขับเคลื่อน กระตุ้นคนทั่วโลกผ่านงานออกแบบเสื้อผ้า รวมทั้งการกำหนดกลุ่มสีสันเสมอ โทนสีสำหรับแฟชั่นในฤดูกาลฤดูใบไม้ผลิ Spring 2009 ยังคงได้แรงบันดาลใจหลักมาจากเฉดสีของธรรมชาติที่ลดความมันวาวลงจากซีซั่น ก่อนๆ ในปีที่แล้ว ภาพโดยรวมสะท้อนถึงความหรูหราที่เรียบง่ายในแบบคลาสสิก ต่อเนื่องกับเทรนด์ฤดูหนาวในปลายปี 2008 อย่างสไตล์ bohemian luxury ด้วย 3 ไอเดีย กลุ่มสี

+ ChicColor Trend
กลุ่ม สีที่มีความสว่าง ไสวในแบบไม่จัดจ้าน ด้วยการใช้สีน้ำตาลผสมรวมกับสีประจำฤดูกาลอย่าง เบจ ฟ้า น้ำตาล เทา ซึ่งให้ความรู้สึกสดใสในแบบพาสเทลโทนร้อน ที่มีแนวทางเดียวกับความนิยมในทศวรรษที่ 60 โดยเฉพาะการนำมาแมตช์ร่วมกับสีธรรมชาติในโทนเขียวมานาวซีด และม่วงอมชมพู

+ ClassicalColor Trend
ความ อมตะ  อันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มสีในยุคเก่าที่ติดตาชวนจดจำอีกแนวทาง คือการผสมแม่สีออกมาเป็นกลุ่มสีใหม่ในระดับที่สอง ที่ให้ความนวลตาในแบบสว่างไสว เหมือนทั้งหมดถูกมองผ่านกระจกฝ้า ซึ่งสะท้อนความสนุกสนานอันรื่นรมย์สไตล์ทะเลเมดิเตอเรเนียนของบรรยากาศการ พักผ่อน ตากอากาศท่ามกลางสภาพแวดล้อมของชายหาด น้ำทะเล และแสงแดด

+ CasualColor Trend
สะท้อน ผลกระทบของสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีต่อธรรมชาติที่ขาดสมดุล ดังนั้น สีในคอนเซ็ปต์นี้จึงมีลักษณะจัดจ้าน ด้วยการหยิบกลุ่มสีในฤดูกาล และสีในธรรมชาติมาเสริมความสว่างไสวในแบบจัดจ้าน ด้วยการผสมสีพื้นฐานในระดับที่สอง และสามให้ระเรื่อตาคล้ายสีที่สะท้อนด้วยแสงขาว หรือนีออน
ในแบบ  city life

Color Wear, Beauty

เช่น เดียวกับกลุ่มสีในแฟชั่น โทนสีสไตล์พาสเทลในแบบคลาสสิก ได้ส่งผลต่อการทำสีผม รวมทั้งเมกอัพโทน ทั้งหมดสอดรับกัน แต่ไม่น่าเบื่อด้วยมีวิธีการเลือกใช้ในแบบคละเคล้าโทนสีและแสงเงา นี่คือไอเดียและเทรนด์สีที่เรานำมาแนะนำ

ผมสีธรรมชาติในแบบ Abstract 
โทน สีที่มาแรงของผมสวยในเทรนด์นี้คือกลุ่มสีบลอนด์อ่อน ที่กัดสีให้ออกโทนแพลตินัม สำหรับสาวเอเชียที่ใจไม่กล้าเปรี้ยวสุดโต่ง อินเทรนด์ได้ ด้วยการทำสีผมในโทนน้ำตาลแดง น้ำตาลไหม้ หรือสี Brunett

โบ๊ะเต็มที่ในแบบธรรมชาติ
หลาย ซีซั่นในปีที่แล้ว มักจะเน้นการแต่งหน้าเบาบาง และใช้ไฮไลท์สร้างมิติ ร่วมกับการเน้นปากสีสดฉ่ำ ร่วมกับการวาดอายไลน์เนอร์ที่โดดเด่น แต่สำหรับสปริงนี้ เทรนด์ได้เปลี่ยนเป็นการแต่งหน้าในแบบครบเซ็ต ทั้งเปลือกตา โหนกแก้ม ปาก ทั้งหมดบนเนื้อที่หน้าของคุณจะต้องเรื่อด้วยสีสันอันเป็นธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่ลิปสติคสีชมพูอมน้ำตาลเนื้อเรื่อประกายอ่อนๆ ไปจนถึงอายแชโดว์โทนสีเบจ ฟ้าน้ำทะเลหม่น และการใช้ไฮไลท์ที่ผสมเม็ดสีเรืองแสงอ่อนๆ สไตล์นีออน ซึ่งให้มิติความสว่างไสวไฉไลในแสงกลางวัน และความสวยเซ็กซี่ในแบบลึกลับท่ามกลางความสลัวของแสงกลางคืน

สีโทนอมม่วง
คือ คีย์สำคัญในการเลือกน้ำยาเคลือบเล็บ ใครที่ชอบทาเล็บแบบเนื้อใส หรือทาปลายตัดด้วยวีขาว ฤดูกาลนี้ ควรเพิ่มมิติ ด้วยการเลือกน้ำยาเนื้อใสในโทนสีอมม่วง หรือโทนสีซีเปีย สีคาปูชิโน หรือช็อคโกแลตมาทาบ้าง เพื่ออัพเทรนด์

Color Well, Living

ด้วย สนนราคาในการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมแค่ไม่กี่สิบตาราเมตรที่แพงชนิดทำงาน รับเงินเดือนไปทั้งชาติ อาจจะได้หมดภาระผ่อนจ่ายในตอนแซยิด ยิ่งไม่ต้องคิดเรื่อมีบ้าน และสวนหญ้าพื้นที่แค่แมวดิ้นตาย ใครหลายคนจึงหันมาสนใจ Idea Can Do ทำรูหนูให้เป็นสวรรค์ชั้นเจ็ดกันมากขึ้น โดยเฉพาะ การเลือกวัสดุ สีสัน ที่นำธรรมชาติมาประยุกต์ให้ผ่อนคลายความแออัด กดดันของการอยู่ในชุมชน ดังนั้น งานตกแต่งสไตล์ ธรรมชาติจึงยังเป็นเรื่องหลักในงานออกแบบ  ในปี 2009 สีหลักๆ ที่เคยทรงอิทธิพลในกวงการสถาปัตย์ มัณฑนากร กำลังลดความเข้มข้นลง ด้วยการเฟตโทนให้ละมุนตา สร้างความสดชื่น และความเป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น และนี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในคัลเล อร์เทรนด์ของที่อยุ่อาศัย รวมทั้งไอเดียดีๆ ที่น่าประยุกต์ใช้กับบ้าน หรือห้องชุดของคุณ

สีเทามาแรงในไอเดีย Neutral  กลุ่มสีธรรมชาติประยุกต์ที่ใช้ชื่ว่า neutral เป็นไอเดียคอนเซปต์ที่แม้จะเพิ่งเกิดขึ้นในไม่กี่ปีมานี้ แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยมันได้รับการผสมในแบบลุกครึ่งระหว่างการประยุกต์ความงามของสีในธรรมชาติ เข้ากับการใช้สีที่มีความเป็นธรรมชาติอย่าง ดำ ขาว เทา ครีม เพิ่มเข้าไปให้มีมิติสว่าง หรืออึมครึม ในแบบแปลกใหม่ที่ให้ผลทั้งดีไซน์ และจิตวิทยา สำหรับปีนี้ สีเทา คือสีหลักที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในการใช้ผสมกับกลุ่มสีธรรมชาติ เพื่อเน้นถึงการให้ความสำคัญกับความสงบ ร่มรื่น ความเป็นส่วนตัว และความเป็นมิตรกับธรรมชาติที่กำลังลดลง

ความสวยงามคลาสสิคในเครื่องโลหะ สมัยเก่ากำลังกลับมา ดังนั้นสีสันของเครื่องโลหะที่กำลังนิยมในตอนนี้ จึงเป็นสีที่ลอกเลียนแบบความมัวซัวของโลหะ หรือธาตุหนักที่ผ่านการเวลา อย่าง พวกเครื่องทองเก่าๆ หรือสนิมเขียวที่จับบนเครื่องเรือน บางคนอาจฉาบผนังด้วยสีแบบเดียวกัน หรือหยอดสีในกลุ่มนี้ด้วยการเลือกใช้โคมไป เก้าอี หรือเสามาตกแต่งในองค์ประกอบใหม่กับบ้านปัจจุบัน

โทนสีส้ม หรือแดง ที่กำลังได้รับความนิยมใสการใช้หยอดตกแต่งบ้านอาคาร จะไม่ใช่การใช้โทนสีในแบบธรรมชาติเหมือนสีจริง แต่มักเลิอกผสมหี้สีมีความสว่าง เข้มในโทนพาสเทลมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นสีโทนร้อน จะผสมสีม่วงลงไปในปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อสีดูขุ่น ไม่บริสุทธิ์ คล้ายศิลปะในยุคละตินเอมริกา

ปีนี้สีเหลืองไม่เพียงมาแรงแค่ในวงการแฟชั่น แต่ยังระบาดมาในวงการสถาปัตยกรรมด้วย โทนสีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือเหลืองดอกแดฟโฟดีลที่มักเบ่งบานใสต้นปี หรือเหลืองสุกของฝักข้าวโพด และสีเหลืองยังทรงอิทธิพลในฐานะของสีผสมในสีพื้นฐานอื่นๆ ด้วย ที่เด่นชัดเช่น การใช้ผสมกับสีเขียว เพื่อลดความบริสุทธิ์ของสีพื้นฐานให้ออกโทนสว่างในแบบหม่นๆ หรือการนำมาใช้ร่วมกับสีเทา เพื่อเบรกโทนของแม่สีพื้นฐานในแนวสี neutral

อีกสีที่ได้รับคาดการณ์ถึงความมาแรง ไม่แพ้ใครคือสีโทนม่วงพลัม หรือสีม่วงควันบุหรี่ ซึ่งมักจะใช้ทา หรือผสมกับสีอื่นๆ เพื่อสร้างความสดชื่นให้ห้อง เครื่องเรือนในแบบไม่ฉูดฉาด หรือมักนิยมนำมาใช้คู่กับสีเขียวนีออน ชมพู ดำ  และเทา ในสไตล์แคริเบียน เมดิเตอเรเนียนประยุกต์ ที่กำลังมาแรง อีกด้วย

ภาพรวม ของสีสันทั้งหมดในฤดูกาลนี้ ให้ความรู้สึกสดใสในแบบครุ่นคิด เหมือนสถานการณ์ชีวิตที่กำลังเผชิญในวิกฤติของปี 2009 ซึ่งตีประเด็นได้สองนัย หนึ่งคือจงคิดบวกให้มีความสุขเสมอ แม้ในวันอันแสนลำบาก และสอง เรายิ้มไม่เต็มปาก สดใสไม่เต็มใจ ก็เพราะผลวิกฤติจากความประมาท วันนี้ได้เวลาหรือยังที่จะจับมือกัน กำจัด ป้องกัน เพื่อเรียกคืนความสดใสที่หายไป โดยเฉพาะสงครามทางเศรษฐกิจ และสภาวะโลกร้อน

ได้ทราบข่าวว่าปีนี้ประเทศไทยกำลังได้รับความสนใจ ให้เป็นแกนกลางอาเซียนในการรณรงค์การลดสภาวะโลกร้อน ก็ได้แต่หวังว่า เราทุกคนจะมีจิตสำนึกที่ดีมากขึ้น WP หวังว่าพวกเราคงจะช่วยกันสร้าง GHP มวลรวมความสุขกันได้มากๆ ถึงตอนนั้นเราอาจได้เห็นสีสันอันสดใส ที่สะท้อนความสุขของโลกจากคอลเลกชั่นเดียวกันนี้ในปีหน้า 2010