ไข่มุก ร่ำไห้...
ข้องใจตกรอบ ชี้กองประกวดไม่แฟร์


 

     ไข่มุก เจ้าของรางวัลขวัญใจช่างภาพมิสยูนิเวิร์ส เดินทางกลับถึงเมืองไทยแฟนคลับแห่รับคับคั่ง พ่อแม่ให้ตุ๊กตาหมีรับขวัญ น้ำตาคลอแถลงข่าวเสียใจไม่ผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ลั่นกองประกวดไม่แฟร์ เผยรับประสบการณ์มาเพียบ เตรียมข้อมูลช่วยนางงามไทยรุ่นต่อไปให้แข่งแกร่งบนเวทีโลก

     หลังจากสร้างชื่อบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2009 ที่ประเทศบาฮามาส เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ''น้องไข่มุก'' น.ส.ชุติมา ดุรงค์เดช ได้เดินทางกลับมาถึงแล้ว ด้วยเที่ยวบิน BA 9 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.30 น. โดยมีนายฤทธิชัย และนางเพชรา ดุรงค์เดช คุณพ่อคุณแม่ รวมทั้งนายวฤทธ และน.ส.อรชุมา ดุรงค์เดช พี่ชาย และพี่สาว ''น้องกี้'' รฐกร สถิรบุตร, ''น้องแอม'' ชลธิชา ทรัพย์ไพบูลย์เลิศ รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2552 พร้อมทั้งแฟนคลับรอให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง ที่บริเวณช่องทางออกประตู 3 เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าว น้องไข่มุกในชุดเดรสสั้นสีขาวได้โบกมือทักทายผู้ที่มาต้อนรับก่อนตรงเข้าสวม กอดคุณพ่อคุณแม่ และพี่ชายพี่สาว ขณะที่นายฤทธิชัย กับนางเพชรา ได้บรรจงหอมแก้ม และมอบตุ๊กตาหมีรับขวัญลูกสาว

     จาก นั้นน้องไข่มุกได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ห้องรับรองพิเศษ โดยเปิดความรู้สึกว่าวันนี้ดีใจมากที่ได้กลับบ้าน และไม่คิดว่าจะมีคนมารอต้อนรับมากขนาดนี้ สำหรับการประกวดครั้งนี้ได้อะไรหลายอย่าง การดูคน และปลงกับสัจธรรมบางอย่าง

     พร้อม กันนี้น้องไข่มุกได้ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมากที่ไม่ผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย แต่ก็ทำใจยอมรับกับโชคชะตา คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราทำเต็มที่ ช่วงที่ประกวดตั้งใจตลอด ไปทำกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ คิดเลยว่าต้องนั่งตรงไหน ต้องทำอย่างไรให้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

     ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ใช้คติอะไรทำให้ยอมรับมันได้ น้อง ไข่มุกเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และและน้ำตาคลอว่า บนเวที คือเดอะโชว์มัสโกออน ผู้เข้าประกวดทุกคนต้องเล่นบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด มุกเป็นตัวแทนของคนไทย คล้องสายสายสะพายคำว่าไทยแลนด์ คิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด โชคดีที่ได้รับรางวัลขวัญใจช่างภาพมาจึงทำให้อยู่กับการประกวดจนจบ กับรางวัลนี้ทำให้ซึ้ง และระลึกถึงพี่สื่อมวลชนทุกคน ระลึกถึงคนไทยทุกคนทำให้รู้ว่าคนไทยไม่ทิ้งกัน จริงๆ ปีนี้สาวเอเชียเด่นมาก แต่แปลกที่ไม่เข้ารอบเลย นางงามหลายๆ ตนพูดกันเลยว่าสาวจากเอเชียโอเค ใน 15 คนที่ผ่านเข้ารอบไป บางคนไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้ตั้งใจกับการประกวด ไม่ตั้งใจทำกิจกรรมไม่เคยแต่งหน้า ใส่ขาสั้นทำกิจกรรม  คิดว่าการประกวดครั้งนี้ไม่แฟร์ หรือเขาตั้งใจทำอย่างอื่นที่ดีหรือมีเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ

     ผู้ สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่นางงามจากประเทศเวเนซุเอลาได้เป็นมิสยูนิ เวิร์ส น้องไข่มุกกล่าวต่อว่า ดีใจกับเขาที่ได้ตำแหน่งนี้ แต่นางงามประเทศอื่นก็คิดว่ากองประกวดไม่แฟร์ที่ให้นางงามจากเวเนซุเอลาได้ 2 ปีซ้อน บรรดานางงามก็มาวิเคราะห์กันตามประสาผู้หญิงต่างๆ นานา รัสเซีย, เม็กซิโก, เช็ก คือคนที่เพื่อนๆ อยากให้เข้ารอบมากที่สุดก็ไม่เข้า

     ''น้องไข่มุก'' กล่าวต่อว่า "เพื่อนนางงามก็พูดกันเองว่า ดูแล้วจะไม่ให้นางงามเอเชียเข้ารอบก็บอกมาเลย เพราะว่านางงามเอเชียลงทุนซื้อของแต่งหน้าทำผมเยอะแยะ  เงินรางวัลที่มุกได้มาจากมิสยูนิเวิร์ส ที่มุกทุ่มไปมันเกินกว่าเยอะเลย นางงามอินเดียบอกว่าต้องตื่นมาแต่ตี 5 เหนื่อยมาก นางงามเอเชียน้อยใจ นางงามฟิลิปปินส์เขาทิ้งสายสะพายทิ้งทุกอย่างในห้องไม่สนใจอะไรบอกว่าการ ประกวดไม่แฟร์ นางงามญี่ปุ่นก็งง เพราะทุกปีนางงามญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบตลอด นางงามอินเดียก็เอ๋อไปเลย ตอนประกาศผล 15 คนมุกรอไทยแลนด์ พอไม่มีไทยแลนด์ คิดอย่างแรกว่าคนไทยจะรู้สึกอย่างไร เพราะทุกคนให้กำลังใจมา ไม่เคยผิดหวังอะไรขนาดนี้ ครั้งนี้มากที่สุด มุกอยู่บนเวทีมุกมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเราต้องเข้ารอบ"

     นอก จากนี้น้องไข่มุกยังกล่าวอีกว่า พร้อมที่จะนำประสบการณ์จากการประกวดครั้งนี้ไปถ่ายทอดให้น้องนางงามรุ่นต่อ ไป ให้รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรกับการประกวดเวทีระดับโลก

     "ปี ต่อไปมุกจะบอกน้องเลยว่าต้องทำยังไง จากการประกวดครั้งนี้มุกได้อะไรเยอะมาก เพราะมุกสังเกตตลอดเวลา สังเกตทุกอย่าง ปีหน้านางงามไทยต้องแกร่ง ประสบการณ์มุกได้มาเยอะเก็บมาทุกเม็ด เวลาทำกิจกรรมต้องรู้เลยว่าเราจะอยู่ตรงไหน ทำให้เป็นจุดเด่นนางงามไทยต้องไม่แพ้นางงามทั่วโลก มุกจะเทรนให้วงการนางงามไทยแข็งแกร่ง เวทีระดับโลกแตกต่างจากเวทีประกวดในประเทศไทยเยอะมาก"

     ผู้ สื่อข่าวถามว่า วางแผนอนาคตไว้อย่างไร ไข่มุกเริ่มกล่าวแบบสบายๆ ว่า อยากเป็นพิธีกร แต่ก็แล้วแต่ช่อง 7 สี ส่วนเรื่องเรียนต่อในระดับปริญญาเอกต้องคุยกับคุณพ่อคุณแม่ก่อน ส่วนสิ่งที่อยากทำมากที่สุดเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย คือกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่

     พร้อม กันนี้ ''น้องไข่มุก'' ได้ฝากถึงคนไทยทุกคนว่า ขอบคุณทุกกำลังใจของชาวไทยที่ส่งไปให้ ซึ้งใจในพระคุณของคนไทยที่ร่วมด้วยช่วยกันทำให้ได้รางวัลมา อย่างกอดทุกคนแต่คงเป็นไปไม่ได้ ขอส่งอ้อมกอดผ่านพี่สื่อมวลชนไปถึงทุกคน

     ด้าน นางเพชราคุณแม่ ''น้องไข่มุก'' รู้สึกชื่นใจกับความสำเร็จของลูกสาว เขาพยายามสุดชีวิตแล้ว ดีใจที่เขาทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียง ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ส่วนอนาคตของลูกสาวจะเข้าวงการหรือเรียนปริญญาเอกต่อก็ตามใจ