แซม แมคไนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมระดับโลก สไตล์แอมบาส ซาเดอร์ของ แพนทีน โปรวี รวมถึงเป็นแฮร์สไตลิสต์คู่กายคนดังอย่าง นิโคล คิดแมน ไคลี มิโนก มาดอนนา ฯลฯ ได้หยิบเอาเทรนด์ผม 4 สไตล์ที่ฮอตที่สุดจากรันเวย์ในลอนดอน มิลาน และปารีส มาเผยเทรนด์ผมสำหรับฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ให้สาวๆ อัพเดตก่อนใคร “ทรงผมในซีซันนี้จะมีลูก เล่นมากขึ้นในรูปแบบที่ไม่จำเจ อย่างการจัดแต่งทรงที่ดูขัดแย้งกัน เพื่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานแฟชั่นอย่างแท้จริง” แซมเกริ่น และร่ายต่อว่า สไตล์ของแฟชั่นในซีซันนี้จะเน้นที่โครงสร้างและแสงเงาที่ชัดเจน บวกกับเท็กซ์เจอร์และความพลิ้วไหว ซึ่งสะท้อนมาจากเทรนด์โลกในขณะนี้ ซึ่ง พีแอนด์จี ได้แบ่งออกมาเป็นธีมหลักๆ 2 ธีม Bio’Logue : ภาวะในปัจจุบันที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูกถ่ายทอดออกมากับแฟชั่นเสื้อผ้าของเหล่าดีไซเนอร์เอง บ่งบอกถึงกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หวนคืนสู่ธรรมชาติ อาทิ สูทขนสัตว์ของปราดา สีเขียว สะท้อนธรรมชาติที่ชาแนลเลือกนำมาเพิ่มชีวิตชีวาให้กับคอลเลกชันแบล็ก แอนด์ไวต์ การใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างเช่นหนังโดย วายเอสแอล ลวดลายหนังสัตว์ที่แอร์เมส และโรลอง มูเรต์ เลือกใช้ และผ้าขนสัตว์ของมานี่ กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ดีไซน์ที่ทันสมัยดูมีชีวิตชีวา และน่าสนใจทีเดียว

แซม แมคไนต์

Intersexion : อีกหนึ่งธีมแห่งความขัดแย้งที่โคจรมารวมกันได้อย่างสมดุลที่กำลังมาแรงในเท รนด์โลกขณะนี้คือ การผสมผสานระหว่างสองเพศที่แตกต่าง ความขรึม แข็งแกร่งอย่างชาย และความอ่อนหวานนุ่มนวลอย่างผู้หญิงสะท้อนถึงความเท่าเทียมไม่แบ่งแยกในยุค ปัจจุบัน สองขั้วที่แตกต่างสร้างความรู้สึกหลากหลายและความเซ็กซี่ที่น่าหลงใหล หลุดจากความหวานหยดย้อยที่จำเจในยุคก่อน ดีไซเนอร์นำคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่โดดเด่นของผู้ชายมาเป็นแรงบันดาลใจอย่างแฟชั่นที่เน้นโครงร่างของลายเส้น ที่คมและชัดเจนในคอลเลกชันที่มีกลิ่นอายของเดรสในยุค 80s ของ ดอนนา คาแรน สูทที่ดูเท่แต่แฝงความเซ็กซี่ของวายเอสแอล และอเล็กซานเดอร์ วางเสื้อยกบ่าของบาลเมน และแจ็กเกตทรงเท่ของสเตลลา แม็คคาร์ตนีย์ เป็นต้น

ด้วย แรงบันดาลจากธีม Bio’Logue และ Intersexion ในเทรนด์แฟชั่นโลก แซมได้เลือกเอาสไตล์ผม 4 แบบ ที่มีทั้งการผสมผสานความต่าง การสร้างเท็กซ์เจอร์ให้กับผม การบิด และหมุนผมเพื่อเพิ่มมิติ มาอัพเดตให้สาวๆ ได้มีลุคที่แตกต่าง แต่สามารถผสมผสานเข้ากับเทรนด์แฟชั่นในซีซันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Maximum Contrast – แตกต่างอย่างสุดขั้ว “ผม สไตล์ Maximum Contrast คือการเล่นระดับผมที่แตกต่างอย่างชัดเจน เป็นการผสมผสานระหว่างผมที่เรียบตึงดูลื่นติดศีรษะกับช่วงผมที่พองออก ตั้งแต่ท้ายทอยจรดปลายผม สื่อถึงความรู้สึกอิสระที่สามารถควบคุมได้ในคราวเดียว” แซม กล่าวเขาแนะขั้นตอนง่ายๆ เพื่อสองความแตกต่างในหนึ่งเดียวแบบ Maximum Contrast

Maximum Contrast

1.หลังสระผม เช็ดผมให้หมาด เพิ่มมูสให้ผมอยู่ตัวแล้วหวีผมด้วยหวีซี่ห่างเพื่อให้มูสกระจายทั่วกัน 2.เป่าผมไปด้านหลัง ใช้หวีกลมช่วยจัดเรียงเส้นผมให้ไปทางเดียวกัน 3.สร้างเท็กซ์เจอร์ให้ผมด้วยคีมหนีบผมลอนหยักแบบถี่ หรือโรลล์ม้วนผมไฟฟ้า เพื่อสร้างลอนคลื่นบางเบาให้กับผม 4.ใช้มือรวบผมเป็นหางม้า ใส่เจลจัดแต่งทรงผมแล้วเริ่มหวีตั้งแต่โคนผมด้านหน้าไปจนถึงกระหม่อม เพิ่มเจลแล้วหวีต่อจนผมช่วงบนและด้านข้างดูเปียก และเรียบตึงที่สุด เพิ่มความมันเงาและเรียบที่สุดทุกเส้นด้วยสเปรย์ชนิดแข็ง

5.ใช้ เครื่องหนีบผมไฟฟ้าเพิ่มความเรียบกริบให้กับผมท่อนบนอีกครั้ง เว้นไว้เฉพาะช่วงความยาวของผมที่หนีบไว้ให้ฟูออกเป็นธรรมชาติเป็นอันจบขั้น ตอน

Future Retro – ย้อนยุคแบบล้ำสมัย แฟชั่น ยุคเก่ากับความโมเดิร์นที่โคจร  มาสร้างความโดดเด่น นำสมัย ทรงผมที่ติดตาจากหนังไซไฟ ทศวรรษ  1980 เรื่องBlade Runner ถูกหยิบยกมาดัดแปลงให้เข้ากับแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้าในยุค 80s คอลเลกชันของนาธาน เจนเดน คอลเลกชันยุค 40s ของมอสชิโน กับคัตติงโมเดิร์นช่วยเสริมให้ดูสวยสง่านำสมัยได้อย่างลงตัว เคล็ดลับของผม Future Retro อยู่ที่การไล่ระดับและการจัดรูปทรงให้บาลานซ์กับเสื้อผ้าที่ใส่ ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ เพื่อลุคภูมิฐาน เผยไหล่สง่างาม ดังนี้ 1.หลังสระผม เช็ดผมให้หมาด ก้มศีรษะลง แล้วหวีผมไปด้านหน้า ใส่มูสเล็กน้อยรวบผมหางม้าขณะที่ก้มศีรษะอยู่ แล้วรัดด้วยยางพลาสติก จากนั้นใช้สเปรย์และหวีเก็บลูกผมให้เรียบ ใช้ไดร์เป่าหางม้าให้แห้ง 2.ใช้โฟมม้วนผมชนิดบิดได้ ม้วนหางม้าเข้าหาตัว แล้วบิดปลายโฟมเข้าหากันไปด้านหลัง ใช้กิ๊บดำติดให้แน่นหนา 3.เก็บรายละเอียดให้เนียนและเพิ่มความเงางามด้วยสเปรย์อีกครั้ง

Future Retro

Rock ‘n’ Romance – ตรึงตาแบบสาวร็อก “ลอง นึกถึงสาวๆ ในทศวรรษ 1960–1970 ที่คลั่งไคล้ร็อกสตาร์ นอกจากลุคการแต่งตัวแบบหวานใจของร็อกเกอร์อย่าง พาเมลา เดส บาร์เรส หรือลินดา แม็คคาร์ตนีย์ จะเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาดีไซเนอร์หลายๆ คน แล้วทรงผมของพวกเธอยังคงมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นจนถึงทุกวันนี้” แซม กล่าว

 

Rock ‘n’ Romance

Rock ‘n’ Romance  ด้วย บุคลิกสาวห้าวที่แอบแฝงความหวาน ซนเล็กๆ ในแววตา ทำให้ลุคผมแบบยุ่งเหยิงดูเหมือนไม่แยแสกับสิ่งรอบข้างของสาวร็อกกลับดูน่า รักมีเสน่ห์โดดเด่นชวนมองอย่างไม่น่าเชื่อ จึงมีดีไซเนอร์หลายรายเลือกผมสไตล์ Rock ‘n’ Romance ไปเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันสำหรับฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว นี้   1. หลังสระผมและเช็ดให้หมาด ชโลมมูสให้ทั่วตั้งแต่โคนจรดปลาย   2.ไดร์ผมโดยใช้มือสางแทนหวี เพื่อเท็กซ์เจอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สปริงตัวไม่เรียบเกินไป   3. ขณะที่ผมใกล้จะแห้ง ชโลมผมด้วยมูสและหวีให้ทั่ว จากนั้นเป่าให้แห้งสนิท สำหรับผมเส้นตรงให้ใช้แกนม้วนผมไฟฟ้าบิดผมให้เป็นลอนหลวมๆ ต่างขนาดเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ แต่สำหรับผมหยิกให้ใช้มือยืดผมหลวมๆ ขณะเป่าโดยเน้นที่โคนผม   4.เพิ่มวอลุมอีกนิดด้วยแปรงชนิดขนละเอียด และยีผมเล็กน้อย   5.ปิดท้ายด้วยสเปรย์จัดแต่งทรงแบบอ่อน เพื่อให้ผมอยู่ทรงและเคลื่อนไหวเป็น ธรรมชาติ

1. หลังสระผม ไดร์ผมให้แห้งโดยใช้แปรงใหญ่ช่วยหวีให้ผมเรียบเงางาม   2. รวบหางม้าให้ตึง จะรวบขึ้นสูงหรือต่ำก็ได้ แล้วแต่ชอบ จากนั้นให้สเปรย์เก็บผมชี้ให้เป็นระเบียบ   3. รีดปลายผมให้เรียบด้วยที่หนีบผมไฟฟ้า เพื่อให้ดูโมเดิร์นลูบเซรัมเล็กน้อย เพิ่มประกายเงางามให้ปลายผม   4. บิดหางม้าแล้วพันรอบโคน ยึดให้แน่นด้วยกิ๊บดำ ตลบปมกลับเข้าด้านในแล้วยึดด้วยกิ๊บดำอีกครั้ง   5. เพิ่มลูกเล่นโดยใช้มือหรือปลายหวีดึงปลายผมที่รีดเรียบ แล้วให้ชี้ออกมาดูหลุดรุ่ยเล็กน้อยให้มวยดูไม่แข็งทื่อและจืดชืดเกินไป