วิธีการผสมน้ำหอม
วิธีการผสมน้ำหอม จากหลายสำนัก
น้ำหอมเป็นผลงานศิลปะที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายชนิดผสมผสานกันอย่างลงตัว การผสมน้ำหอมจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน และประสบการณ์สูง เริ่มต้นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีเยี่ยม ทั้งน้ำมันหอมระเหย เครื่องหอม และสารดับกลิ่น จากนั้นนำมาผสมรวมกันตามสูตรลับที่ได้รับการคิดค้นและปรับปรุงมาอย่างพิถีพิถัน โดยการชั่งน้ำหนัก และปริมาณของแต่ละส่วนผสมให้แม่นยำ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโน้ตต้น กลาง และปลายได้อย่างกลมกลืน
สำนักที่ 1 perfumeland
สูตรการผสมน้ำหอม เกรด A
» วัตถุดิบที่จำเป็น
1. หัวเชื้อน้ำหอม เกรด A:และ B: แต่ละกลิ่นราคาไม่เท่ากัน
2. Whit Musk,Musk มัสค์ 60-100% คือตัวช่วยในการติดทนนาน
3. POP: ตัวเพิ่มความชุ่มชื้น
4. DEB: เอ๊ทเทอร์นอล 95-100% ตัวทำละลายให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปในอากาศ
» สัดส่วนผสม แต่ละวัตถุดิบ ในขวด 120 ซ๊ซี ดังรูปข้างล่าง

» เขย่าส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากัน ในขวด 120 ซีซี เก็บไว้ในที่แห้ง และระดับอุณหภูมิห้องและเย็น
หมายเหตุ - การเพิ่มขึ้นของหัวเชื้อ หรือการลด DEB จะมีผลต่อการติดทนนานของน้ำหอม
- บางสูตรอาจจะมีการผสมน้ำกลั่น 5-10 ซีซี. เพื่อช่วยลดกลิ่นเหม็นของแอลกอฮอล์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำนักที่ 2 worldchemical
HOW TO MAKE YOUR OWN PERFUME วิธีการผสมน้ำหอมที่มีคุณภาพ
HOW TO MAKE YOUR OWN PERFUME วิธีการผสมน้ำหอมที่มีคุณภาพ
การผสมน้ำหอมนั้นทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด ซึ่งก็เหมือนการผสมเครื่องดื่มทานนะครับ ซึ่งท่านสามารถจะ
เจือจางหรือผสมให้เข้มข้นได้แล้วแต่ใจชอบนะครับ

ซึ่งเราจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้ให้พร้อมก่อนนะครับ
1. หัวเชื้อน้ำหอม ส่วนมากจะลักษณะเป็นน้ำมันนะครับ ข้นนิดๆซึ่งต้องแน่ใจว่าเป็นหัวเชื้อ เพราะบางทีได้ทำการเจือจางหัวเชื้อแล้ว ซึ่งจะทำให้กลิ่นอ่อนและลักษณะคล้ายน้ำไม่ข้นเท่าไรนะครับ หัวเชื้อน้ำหอมเวลาเราเอามาขยี้กับนิ้วจะรู้สึกมันและอุ่นๆนะครับ ถ้าเอาขยี้แล้วเย็นก็หมายถึงถูกผสมมาเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับฮงฮวดเองจะมีขายแต่หัวเชื้อดังนั้น ท่านเลยแน่ใจได้ว่าจะได้หัวเชื้อน้ำหอมคุณภาพไปใช้นะครับ
2. แอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันเรามีตัว Denatured Alcohol ซึ่งมีคุณสมบัติในการระเหยได้ดีกว่าตัว 958 เพราะ
มี Alcohol ถึง 99% ในขณะที่ 958 มีแค่ 95% ดังนั้นเมื่อมีแอลกอฮอล์มากขึ้นทำให้การระเหยของกลิ่นดีขึ้นนะครับ
3. MUSK 10% หรือ 165 ซึ่งเป็นตัวเร่งกลิ่นและทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น ซึ่งจะมีสองแบบ ก็คือแบหัวเชื้อกับแบบเจือจางนะครับ MUSK 165 จะเป็นหัวเชื้อส่วน MUSK 10% จะเป็นแบบเจือจางนะครับ
4. Propylene Glycol ซึ่งเป็นตัวที่สามารถทำละลายในน้ำและน้ำมันได้ ตัว PG จะช่วยในการดับกลิ่นน้ำหอมได้ดียิ่งขึ้นและแถมมีตัวที่ทำให้ผิวชุ่มชื่นอยู่ ในตัว PG จริงๆแล้วตัววัตถุดิบในเครื่องสำอางค์
5.น้ำกลั่น จะช่วยในการดับกลิ่นแอลกอฮอล์

วิธีการผสม
- นำ Denatured Alcohol มาผสมกับ Musk ก่อนนะครับ โดยนำ alcohol 1 ปอนด์ผสม Musk 1 ออนซ์และ เขย่าให้เข้ากันพักทิ้งไว้นะครับ
- นำหัวน้ำหอมมาผสมกับ alcohol ที่ผสมพักไว้ โดยใช้อัตราส่วนดังนี้ หัวเชื้อน้ำหอม 1 ออนซ์ ต่อ alcohol 3 ออนซ์ (ถ้าจะให้เจือจางมากยิ่งขึ้นก็ให้ใส่ alcohol เพิ่มมากขึ้น)
- ผสมและเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นให้เติม Propylene Glycol ไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ห้ามเติม PG มากเกินไปเพราะ ไม่งั้นตัว PG อาจจะแยกตัวจากน้ำหอมได้นะครับ
- เติมน้ำเข้าไปอีก 7 cc. แล้วเขย่าให้เข้ากัน
- เมื่อผสมเสร็จก็พักน้ำหอมทิ้งไว้สักพักก่อนนำมาใช้

TIP ในการผสมน้ำหอม
- เมื่อผสมเสร็จควรจะแช่น้ำหอมไว้ในตู้เย็นเพื่อที่จะเร่งการกระจายและการเข้ากันของน้ำหอมได้ดี และ เร็วยิ่งขึ้น
- ควรแน่ใจว่าน้ำหอมที่นำมาผสมเป็นหัวน้ำหอมจริงๆไม่มีการเจือจาง โดยการใช้วิธีขยี้น้ำหอมกับนิ้วพิสูจน์ โดยถ้าขยี้แล้วมันหรืออุ่นก็สันนิฐานว่าเป็นหัวเชื้อไว้ก่อน แต่ถ้าขยี้แล้วเย็นไม่มันก็แปลว่าเป็นหัวน้ำหอม เจือจางนะครับ
- หัวน้ำหอมส่วนมากจะเป็น OS หรือ Oil Sulable ซึ่งหมายความว่าละลายในน้ำมันได้ดี ซึ่งสามารถนำมา ผสมเข้ากับเครื่องสำอางค์หรือเครื่องประทินผิวอื่นๆเช่น แขมพู, ครีมทาผิว, สบู่เหลว, และอื่นๆ
- ถ้าผสมเสร็จแล้วน้ำหอมที่ได้เกิดสีเข้มไป ซึ่งก็เป็นไปได้สำหรับหัวเชื้อบางชนิด ก็มีวิธีแก้ไขโดยการใส่ TALCUM POWDER ซึ่งรอให้แป้งตกตระกอนแล้วเอากระดาษกรองมากรองเอาน้ำหอมที่เหลือ ซึ่งน้ำอมที่ได้ก็จะมีสีที่จางลง
- ถ้าน้ำหอมที่ผสมออกมาขุ่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าผสมน้ำมากเกินไป ก็ให้ทำการใส่ alcohol เพิ่มก็จะทำให้ใส่ เหมือนเดิม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำนักที่ 3 viva
หัวน้ำหอมแท้ๆ พิสูจน์ได้
ด้วยการนำมาจับๆ ทาๆ ดูมันจะร้อนค่ะ
แต่ถ้าผสมแล้วกับแอลกอฮอล์จะเย็นๆ ค่ะ
สุตรการผสมน้ำหอม ไม่มีตายตัวค่ะ
ลูกค้าสามารถปรับสูตรได้เอง
ซึ่งทั่วไปในท้องตลาดจะมี 2 สูตร
1. สุตรทั่วไป
ทนนาน 4-5 ชั่วโมง
2. สุตรเข้ม
ทนนาน 8 ชั่วโมง
อุปกรณ์และส่วนผสม
1. อัลกอฮอล์ ผสมมัสต์แล้วจะประหยัดและสะดวกกว่า
2. หัวน้ำหอม
3. ขวดแก้ว สำหรับใส่น้ำหอมที่ผสมแล้ว
4. สลิงค์พลาสติก
ขึ้นอยุ่กับผู้ผสมอยากให้น้ำหอมที่ผสมแล้ว ทนนานหรือทนไม่นานค่ะ
เช่น บางร้าน ถ้าทนไม่นาน ตามข้อ 1 ก็ใส่หัวน้ำหอมแค่ 12%
ถ้าเอาทน ตามข้อ 2 ก็ใส่แค่ 15 %
- น้ำหอมจะหอมดี หอมนาน หอมทน อยู่ที่ส่วนผสมด้วยค่ะ ถ้าหัวน้ำหอมมีคุณภาพ
แต่แอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมไม่มีคุณภาพ น้ำหอมก็คุณภาพไม่ดี
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1st. update 05-08-2009
กระบวนการผสมน้ำหอมนั้นละเอียดอ่อน และจำเป็นต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ โดยช่างผสมน้ำหอมจะค่อย ๆ เทวัตถุดิบลงในภาชนะผสมพร้อมคนเบา ๆ ด้วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเหมาะสม บางครั้งต้องทิ้งไว้ให้น้ำหอมบ่มตัวเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จากนั้นจึงปรับแต่งรสชาติ และกลิ่นอีกครั้งจนได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ น้ำหอมที่ผ่านกรรมวิธีนี้จะมีเสน่ห์เย้ายวนใจ กลิ่นละมุนละไม และคงทนถาวร
ร้านดีเบล ให้ยินดีให้คำปรึกษา แนะนำ พร้อมบริการขายแพคเกจจิ้ง บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์หลากหลายประเภท อาทิเช่น ขวดสเปรย์ ขวดสูญญากาศ หลอดครีม ขวดครีม ตลับครีม หลอดลิปบาล์ม หลอดโฟม ขวดปั้มโลชั่น ขวดปั้มครีม ตลับแป้งพัฟ ขวดลิปกลอส ตลับแป้งฝุ่น และกระปุกครีม ราคาถูกอีกมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ให้คุณได้เลือกบรรจุภัณฑ์อย่างตรงใจ พร้อมบริการออกแบบ และสกรีนแบรนด์ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยสาขาหน้าร้านถึง 4 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นสาขาโบ๊เบ๊ สาขาพระราม2 สาขาสาขาวัดสิตราราม สาขาพันท้าย
ร้านดีเบล นำเข้า และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ และเวชภัณฑ์
โทร. 02-114-7416
อีเมล. info@dbale.com , 42okok@gmail.com , panyasaejuang@gmail.com
