ภาษา น้ำหอม อ่านให้เป็น ก่อนเลือกซื้อ
เมื่อหยิบขวดขึ้นมาดู คุณจะเห็นข้อความ และรายละเอียด ที่ประกอบด้วยคำศัพท์เหล่านี้ ซึ่งแต่ละคำล้วนมีความหมาย ในการตัดสินใจเลือกซื้อของคุณ
Aftershave : ใช้หลังโกนหนวด ส่วนใหญ่ปากขวดจะมีรูเล็กๆ เพื่อหยดบนฝ่ามือ ก่อนประพรมบริเวณแก้มและคาง ให้กลิ่นหอมนาน ประมาณ 3 ชั่วโมง
Aftershave Balm : วิธีใช้เหมือนกัน แต่มีความอ่อนโยนต่อผิว เพราะปราศจากแอลกอฮอล์ และมีมอยส์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่น ช่วยปลอบประโลมผิว
Base Notes : กลิ่นสุดท้ายของน้ำหอมที่ติดผิวกายนานที่สุด
Body Notes : หรือเรียกอีกอย่างว่ากลิ่นกลางของน้ำหอม
Citrus : กลิ่นสดชื่นของผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม
Classic : กลิ่นที่ได้รับความนิยมเนิ่นนาน จากรุ่นปู่ย่ามาจนถึงลูกหลาน
Eau de Parfum (EDP) : กลิ่นหอมติดทนประมาณ 3 - 5 ชั่วโมง
Eau de Toilette (EDT) : ในบรรดาผลิตภัณฑ์น้ำหอม EDT มีราคาย่อมเยาที่สุด เพราะหอดติดทนประมาณ 2-4 ชั่วโมง เหมาะสำหรับใช้ประจำวันที่ต้องการกลิ่นบางเบา
Floral : กลิ่นดอกไม้ที่ให้ความเป็นผู้หญิง เช่น กุหลาบ ลิลี่
Fragrance Family : ประเภทของน้ำหอม
Fruity : กลิ่นผลไม้สุก
Juice : ศัทพ์ในวงการน้ำหอมที่ใช้เรียก Liquid Perfume
Layering : การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกลิ่นเดียวกัน ตั้งแต่เจลอาบน้ำ โลชั่นทาผิว และ น้ำหอม เพื่อให้ความหอมติดทนทาน
Notes : คำศัพท์ในภาษาดนตรี ที่วงการน้ำหอมยืมมาใช้เพื่ออธิบายส่วนผสม
Oriental : กลิ่นเย้ายวน เซ็กซี่ อบอวล ซึ่งมีส่วนผสมระหว่างกลิ่นไม้หอม และ เครื่องเทศ
Pure Perfume : ผลิตภัณฑ์ในรูปครีมน้ำหอม สำหรับแตะแต้มผิวให้หอมยาวนานถึง 6 ชั่วโมง
Spicy : เครื่องเทศที่ให้กลิ่นเร่าร้อน เช่น วานิลลา ขิง ลาเวนเดอร์
Top Notes : กลิ่นแรกที่ได้รับเมื่อฉีดน้ำหอม
Woody : กลิ่นอบอุ่นของไม้และแผ่นหนัง